ตัวแทนไม่เป็นหมอ..ก็เหมือนหมอ

ไม่เป็นหมอ ก็เหมือนหมอ


   อาชีพตัวแทนประกันชีวิตเป็นอาชีพที่ทำไม่ง่ายและไม่ยากถ้ามีความเข้าใจกับอาชีพ ต้องใช้ความพยายามและความอดทนที่ต้องอยู่ในอาชีพ ความกดดันต่างๆ การปฏิเสธที่นับครั้งไม่ได้ว่าผ่านมาเท่าไหร่ และอาชีพนี้ไม่เป็นหมอก็เหมือนหมอก็ต้องที่ต้องมีความรู้เกือบเท่าหมอเพราะข้อมูลโรคภัยต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นสามารถเคลมประกันได้ไม่ได้อย่างไร ต้องรู้ให้จริงรู้ให้ลึกไม่อย่างนั้นจะตอบคำถามและขายสินค้าประกันได้ไม่ชัดเจน อาจจะต้องมีปัญหาในระยะวันที่จะต้องเคลมและมีความเข้าใจไม่ตรงกับลูกค้าได้ ดังนั้นอาชีพตัวแทนประกันชีวิตนั้นจึงต้องหาความรู้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บและ update ความรู้อยู่ตลอดเวลา


   การทำประกันก็ต้องมีการพาลูกค้าตรวจสุขภาพ การประมาสานงาน การนัดหมายกับโรงพยาบาลทุกครั้ง นั่นหมายความว่าการเดินเข้าออกโรงพยาบาลนั้นก็เปรียบเหมือนออฟฟิศย่อมๆในการทำงานเลยก็ว่าได้

เมื่อถึงเวลาลูกค้าเคลมประกัน ทีนี้ล่ะความรู้มาฉ้ำๆเลยเพราะว่าตัวแทนต้องรู้ที่มาที่ไปในการเคลมของโรคนั้นๆว่าเคลมได้หรือไม่ถ้าไม่ได้ก็ต้องรู้เอกไม่ได้เพราะอะไรเพื่อนำไปอธิบายลูกค้าว่าให้เข้าใจถึงสาเหตุ ทุกๆอย่างล้วนแล้วเป็นประสบการณ์เป็นความรู้ในการบอกเล่าประสบการณ์กับลูกค้าและเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันเพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถ ความมั่นใจในการทำงานครั้งต่อๆไป

   การพบหมอเพื่อรักษาโรคแต่ละอย่างนั้นหมอก็ต้องสอมถามอาการป่วยให้ได้มากที่สุดเพื่อนำไปวินิจฉัยโรค ตัวแทนประกันก็เหมือนกัน ก็ต้องสอบถามรายละเอียดข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำไปประกอบวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพราะแบบประกันแต่ละประเภทการทำงานไม่เหมือนกัน เพศ อายุ ประวัติสุขภาพ ความกังวล ความต้องการของลูกค้า ระยะเวลาในการวางแผน เป้าหมายทางการเงินและยิ่งเป็นประกันแบบใหม่ๆเช่นประกันควบการลงทุนแล้วนั้นต้องยิ่งทำความเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง ข้อมูลเบี้ยงต้นนี้มีผลต่อแบบประกันและค่าเบี้ยที่จะต้องจ่ายในแต่ละปี ดังนั้นการวางแผนระยะยาวจึงมีความจำเป็นที่ต้องสอบถามข้อมูลให้มากที่สุดเพื่อนำมาซึ่งการทำประกันของแต่แบบแต่ละแผน

สุดท้ายหากทำประกันด้วยความเข้าใจแล้วในภายภาคหน้าระหว่างทางจนถึงวันที่ต้องใช้ประกันก็จะไม่มีความกังวลและสบายใจตลอดทุกช่วงขณะของการมีประกันนั้นเลยครับ